เรามาดูกันดีกว่าว่าผักชนิดไหนที่ควรระวัง สารฟอร์มาลีน ที่อาจพบได้ในชนิดนั้นๆ
![]() |
ภาพจากอิเตอร์เน็ต |
แนะควรดูหากสดมากไป หรือดมแล้วแสบจมูกห้ามซื้อมารับประทานเด็ดขาด
MthaiNews ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายนริศ ขำนุรักษ์ ส.ส.พัทลุง พรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการการที่ดิน ทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อม สภาผู้แทนราษฎร เปิดเผยผ่าน Mthai News ว่า
กมธ. ได้รับแจ้งจากประชาชนในหลายพื้นที่ว่าขณะนี้มีการใช้สารฟอร์มาลีนในการแช่ผักโดยเฉพาะ คะน้า ผักกาดขาว ผักกาดหอม ถั่วฝักยาว แตงกวา หน่อไม้ ยอดมะพร้าวและผลไม้อีกหลายชนิด รวมทั้งสัตว์น้ำ และเนื้อ เพื่อให้สามารถเก็บรักษาไว้ให้นานเหมือนสภาพสด ไม่เน่าเปื่อยเพื่อหลอกตาผู้ซื้อ
ทั้งนี้ จะทำให้ผู้บริโภคได้รับสารดังกล่าว ซึ่งเป็นสารอันตรายต่อร่างกายถ้าสะสมในปริมาณที่มาก อาจจะถึงแก่ชีวิตได้ และเป็นการทำลายสิ่งแวดล้อมและเศรษฐกิจของประเทศ ซึ่งเป็นสารเคมีที่ไม่อนุญาตใช้ในอาหาร มีการอนุญาตให้ใช้ในทางด้านอุตสาหกรรมสิ่งทอเพื่อเป็นน้ำยาอาบผ้าไม่ให้ย่น และใช้ฆ่าเชื้อโรคและเชื้อราในการเก็บรักษาธัญพืชหลังการเก็บเกี่ยวและใช้เป็นการป้องกันแมลงเท่านั้น
เพราะถ้ามีการสะสมเข้าไปในร่างกายจะทำให้มีผลต่อระบบหายใจคือ แสบจมูก เจ็บคอ ไอ หายใจไม่ออก ปอดอักเสบ ตลอดจนคลื่นไส้ อาเจียน ปัสสาวะบ่อย น้ำท่วมปอด และมีผลต่อผิวหนัง ผื่นและคัน เพราะนอกจากต้องซื้อของแพงแล้วอาจทำให้เสียชีวิตได้ กมธ.จึงได้มีมติดังนี้
1.ให้กระทรวงสาธารสุขและกองบังคับการปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (บก.ปทส.)ได้ตรวจสอบการใช้สารฟลอมูลีนของ ทุกตลาดและทุกผู้ประกอบการที่ขายผลไม้ ผัก และเนื้อ และหากพบการกระทำผิดก็ให้ดำเนินคดีโดยเด็ดขาด
2.ให้ประชาชนระมัดระวังในการเลือกซื้อผลไม้ ผัก และเนื้อ โดยการดมกลิ่น และสังเกตอย่างใกล้ชิด ถ้ามีกลิ่นฉุนจนแสบจมูกและมีสภาพสดเกินความเป็นจริงก็ไม่ควรซื้อมาบริโภค และแจ้งพนักงานเจ้าหน้าที่
ข้อมูลจาก : Mthai News
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น